083-919-2464
FREE DELIVERY ON ORDER OF 3,000 THB MORE
ไวน์โลกใหม่ คืออะไร?
ไวน์โลกใหม่คืออะไร ? What is New World Wine ?ไวน์โลกใหม่ (New World Wine) คือไวน์ที่ผลิตในประเทศที่ไม่ได้มีประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ยาวนานเท่ากับประเทศในยุโรป ประเทศเหล่านี้อาทิเช่น สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ชิลี, อาร์เจนตินา, และแอฟริกาใต้ ไวน์โลกใหม่มักจะถูกทำการตลาดด้วยการเน้นไปที่สายพันธุ์ขององุ่น ในขณะที่ไวน์จากยุโรป (โลกเก่า) มักจะเน้นไปที่ภูมิภาคที่ผลิต นอกจากนี้ไวน์จากโลกใหม่ยังมีแนวโน้มที่จะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่า เนื่องจากการใช้เทคนิคการผลิตที่ทันสมัย เน้นการใช้เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในการปรับปรุงคุณภาพของไวน์ ทำให้สามารถผลิตไวน์ที่มีคุณภาพสูงได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสภาพอากาศและดินฟ้าอากาศเหมือนไวน์จากโลกเก่า นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไวน์จากโลกใหม่ได้รับความนิยมและการยอมรับมากขึ้นในตลาดไวน์โลกในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา
พันธุ์องุ่นในไวน์แตกต่างกันอย่างไร ?
พันธุ์องุ่นในไวน์แตกต่างกันอย่างไร ?องุ่นแต่ละสายพันธุ์สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ไวน์แต่ละชนิดมีรสชาติที่แตกตางกันออกไป สายพันธุ์องุ่นสำหรับไวน์แดง1. Cabernet Sauvignon - ไวน์ที่ทำจากองุ่นพันธุ์นี้มักมีรสชาติเข้มข้นโดดเด่นด้วยผลไม้ดำเช่นเบอร์รี่มักมีโครงสร้างทนทานและมีแทนนินสูง2. Merlot - ไวน์จากผลองุ่นพันธุ์ Merlot มักมีลักษณะนุ่มนวลโดยมีรสชาติของพลัมและผลไม้ดำอื่นๆ รวมถึงเนื้อสัมผัสที่มีความกลมกล่อม3. Pinot Noir - องุ่นชนิดนี้ทำให้ไวน์มีรสชาติที่สดใสและเป็นธรรมชาติ มักมีโน้ตของเชอร์รี่,สตรอว์เบอร์รี่และเครื่องเทศ4. Syrah/Shiraz - ไวน์ที่ทำจาก Syrah หรือ Shiraz มีรสชาติของผลไม้สุกและเครื่องเทศ บางครั้งยังมีกลิ่นหอมของพื้นดินหรือหิน5. Zinfandel - ไวน์จาก Zinfandel มักมีรสชาติของผลไม้ดำที่เข้มข้นและรสหวานจากผลไม้แห้ง บ่อยครั้งที่มีแอลกอฮอล์สูง6. Malbec - ไวน์ Malbec มีรสชาติของแบล็กเบอร์รี่,พลัมและโน้ตเครื่องเทศ มีโครงสร้างแข็งแรงและเป็นที่นิยมในอาร์เจนตินา7. Sangiovese - องุ่นพันธุ์นี้ผลิตไวน์ที่มีความสดใส มีรสชาติของเชอร์รี่และเครื่องเทศอิตาเลียน โดยมักพบบ่อยในไวน์ Chianti8. Tempranillo - สายพันธุ์นี้ให้ไวน์ที่มีโน้ตผลไม้และหนังสัตว์ มักผลิตในสเปนและเป็นไวน์ที่มีความซับซ้อน9. Nebbiolo - ไวน์จาก Nebbiolo มีโครงสร้างแข็งแรง มีแทนนินและความเป็นกรดสูง ด้วยโน้ตของหมากฝรั่งและดอกไม้10. Barbera - องุ่นพันธุ์นี้ทำให้ไวน์มีรสชาติของผลไม้สดและเป็นกรดสูง ด้วยเนื้อสัมผัสที่เบาและเป็นที่นิยมในอิตาลี สายพันธุ์องุ่นสำหรับไวน์ขาว1. Chardonnay - ไวน์ Chardonnay มีช่วงตั้งแต่ผลไม้เขตร้อนไปจนถึงแอปเปิ้ลและเลมอน มีความซับซ้อนเมื่อหมักในถังโอ๊ค2. Sauvignon Blanc - รสชาติสดใสด้วยโน้ตของผลไม้เขตอบอุ่น เช่นแพชชั่นฟรุต,กีวีและสะระแหน่3. Riesling - ไวน์ที่ทำจาก Riesling มักมีรสหวานธรรมชาติ พร้อมกับความเป็นกรดที่สดชื่น มีโน้ตของลิ้นจี่และดอกไม้4. Pinot Grigio/Pinot Gris - ให้รสชาติที่เบาและสดชื่น มีกลิ่นผลไม้สีขาวและเปลือกไม้5. Gewürztraminer - มีกลิ่นหอมเด่นของดอกไม้และผลไม้เขตร้อน ไวน์ที่ทำจากองุ่นพันธุ์นี้มักมีรสหวานและมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นองุ่นแต่ละพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้นมีความโดดเด่นในตัวเองและเมื่อนำมาหมักเป็นไวน์จะให้รสชาติและกลิ่นหอมที่สามารถบอกได้ถึงความเป็นมาและแหล่งที่มาขององุ่นนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน.
ไวน์โลกใหม่กับโลกเก่า ความแตกต่างที่น่าสนใจ
ไวน์โลกใหม่กับโลกเก่า ความแตกต่างที่น่าสนใจ 1. ประเทศผลิต - ไวน์โลกใหม่: ประเทศเหล่านี้มักเป็นผู้ผลิตไวน์ใหม่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว เช่น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, และแอฟริกาใต้ - ไวน์โลกเก่า: ประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานในการผลิตไวน์ เช่น ฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน, และเยอรมนี2. องุ่นที่ใช้ในการผลิต - ไวน์โลกใหม่: องุ่นที่เหมาะสำหรับสภาพอากาศและดินที่แตกต่างกัน เช่น Sauvignon Blanc, Pinot Noir, Malbec - ไวน์โลกเก่า: องุ่นแบบสูงโดยเฉพาะที่เป็นที่นิยมมาก เช่น Cabernet Sauvignon, Merlot, Chardonnay3. กระบวนการผลิต - ไวน์โลกใหม่: มักมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิต เพื่อให้ไวน์มีรสชาติที่น่าสนใจและโมเดิร์น - ไวน์โลกเก่า: การผลิตไวน์โดยใช้วิธีการและเคล็ดลับที่ถ่ายทอดมาจากพ่อหลวงและการผลิตที่เป็นที่รู้จักมากครั้งแล้ว4. รูปแบบและรสชาติ - ไวน์โลกใหม่: มักมีลักษณะที่สดใหม่และชิ้นส่วนที่น่าสนใจ เช่น รสชาติผลไม้สด, รสชาติกระเทียมและสมุนไพร - ไวน์โลกเก่า: มักมีลักษณะที่ซับซ้อนและสมดุล เช่น รสชาติที่เข้มข้น, กลิ่นของโคลอง, โดยเฉพาะในไวน์ที่มีการอายุการเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างไวน์โลกใหม่กับโลกเก่าช่วยให้เราเข้าใจถึงวัฒนธรรมและความหลากหลายในโลกของไวน์ได้อย่างแท้จริง ไวน์โลกใหม่มักมีลักษณะที่สดใหม่และโมเดิร์น ในขณะที่ไวน์โลกเก่ามักมีความซับซ้อนและสมดุล ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบไวน์ใหม่หรือเก่า คุณจะพบความพิเศษและความอร่อยในทั้งสองประเภทของไวน์ได้
เคล็ดลับการรักษาไวน์อย่างถูกวิธี
เคล็ดลับการรักษาไวน์อย่างถูกวิธีการรักษาไวน์อย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ไวน์คงความคุณภาพและรสชาติของมันได้ ในบทความนี้จะแบ่งปันเคล็ดลับการรักษาไวน์อย่างถูกวิธี เพื่อช่วยให้คุณเก็บไวน์ไว้ในสภาพที่ดีที่สุดและสามารถเพลิดเพลินกับความอร่อยของมันได้อย่างยาวนานวิธีรักษาไวน์อย่างถูกวิธี1. เก็บไวน์ในที่ที่เหมาะสม - เก็บไวน์ในที่ที่มืดและเย็น โดยหลีกเลี่ยงการเก็บไวน์ในที่ที่มีแสงและความร้อนสูง เพราะอาจทำให้ไวน์เสื่อมสภาพได้2. รักษาอุณหภูมิที่เหมาะสม - ควรเก็บไวน์ที่อุณหภูมิเย็นระหว่าง 10 - 13 องศาเซลเซียสสำหรับไวน์แดง และ 7 - 10 องศาฟาเซลเซียสสำหรับไวน์ขาว และรักษาความชื้นรอบคอกไวน์ให้เหมาะสม3. เก็บไวน์ในที่มืด - การเก็บไวน์ในที่มืดช่วยลดการสะสมของแสงและรังสี UV ซึ่งอาจทำให้ไวน์เสื่อมสภาพได้4. หมั่นเช็คและบังคับกำหนดเวลาการเปิดขวด - เช็คสภาพของซีลขวดไวน์เป็นระยะๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการรั่วไหลหรือการเสื่อมสภาพของไวน์ - บังคับกำหนดเวลาการเปิดขวดไวน์เพื่อป้องกันการออกซิเดชั่นและการเสื่อมสภาพ5. ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม - ใช้เครื่องมือเปิดขวดไวน์ที่มีคุณภาพและถูกสร้างมาอย่างดีเพื่อป้องกันการทำลายซีลขวดหรือตะกร้า6. รักษาไวน์ที่เหลือหลังการเปิด - หลังจากการเปิดขวดไวน์ ควรเก็บไวน์ที่เหลือในตู้เย็นและบริโภคในเวลาที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของไวน์7. ไม่นำไวน์ไปไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานาน - การเก็บไวน์ในตู้เย็นเป็นเวลานานอาจทำให้ไวน์เสื่อมสภาพและสูญเสียรสชาติของมันได้การรักษาไวน์อย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ไวน์คงความคุณภาพและรสชาติของมันได้ตามที่คาดหวัง โดยการเก็บไวน์ในที่ที่เหมาะสม รักษาอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เราสามารถทำให้ไวน์ของเราอยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมสำหรับการบริโภคอย่างสุดท้ายได้
คำแนะนำการดื่มไวน์สำหรับมือใหม่
คำแนะนำการดื่มไวน์สำหรับมือใหม่ 1. เลือกไวน์ที่เหมาะกับความชอบของคุณ: - ลองไวน์แดง, ไวน์ขาว, หรือไวน์โรเซ่ และตัดสินใจว่าคุณชอบแบบไหนมากที่สุด - เริ่มด้วยไวน์ที่มีรสชาติเบาๆ และลองปรับปรุงรสชาติเมื่อคุณรู้สึกพร้อมแล้ว2. เตรียมเครื่องดื่มไวน์: - ใช้แก้วไวน์ที่มีรูปร่างที่เหมาะสม เช่น แก้วไวน์แบบ Bordeaux สำหรับไวน์แดงหรือแก้วไวน์แบบ Tulip สำหรับไวน์ขาว - แนะนำให้ใช้แก้วไวน์ที่มีปากกว้างๆ เพื่อช่วยให้ไวน์ที่หลากหลายมีช่องที่ไวน์สามารถเล่นกับอากาศได้มากขึ้น3. หมุนแก้วและสัมผัสกับกลิ่น: - หลังจากเติมไวน์ในแก้ว หมุนแก้วเพื่อเปิดกลิ่นของไวน์ - ลองสัมผัสกลิ่นของไวน์โดยกลั้นหายใจเข้าจากปากและปล่อยออกทางจมูก เพื่อให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ4. ชิมและรับรสชาติ: - ชิมไวน์เบาๆ และให้ไวน์หล่นลงไปบนลิ้น - รับรสชาติของไวน์ โดยสังเกตุถึงรสชาติและกลิ่นที่คุณชอบ5. สังเกตรสชาติเล็กๆของไวน์: - ลองสังเกตุถึงความสมดุลของไวน์ รสชาติที่แตกต่างกันขององุ่นและสารประกอบอื่นๆ6. เตรียมพร้อมสำหรับประสบการณ์หลังการดื่มไวน์: - รับรู้ถึงความสนุกที่ได้จากการตั้งคำถามเกี่ยวกับไวน์และการประสานงานกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวที่มีความรู้เกี่ยวกับไวน์ การดื่มไวน์ไม่ต้องดีไม่ต้องกังวลใดๆ และอย่าลืมว่าความสนุกในการค้นพบด้วยการลองและการเรียนรู้คือสิ่งสำคัญที่สุด เราหวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมและเพลิดเพลินกับประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณได้อย่างเต็มที่